ตั้งแต่เริ่มปีใหม่ 2562 เป็นต้นมา เรายังคงเห็นข่าวเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้อยู่เป็นจำนวนมาก หลายฝ่ายต่างออกมาคาดกันว่า แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ไม่น่าจะดีเท่าปีที่แล้วเนื่องด้วยเศรษฐกิจไทยเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากรอบด้านทั้งเรื่องสงครามการค้า เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวตามทั่วโลก ขณะเดียวกันดอกเบี้ยภายในประเทศเองก็อยู่ในช่วงขาขึ้นอีกด้วย ขณะเดียวกันภาคอสังหาฯเองก็ต้องเผชิญสถานการณ์ที่ยากขึ้นกว่าปีก่อนเช่นกัน หลายฝ่ายทั้งผู้ประกอบการเองและแบงก์ก็แสดงความเป็นห่วงภาคอสังหาฯในปีนี้ที่ต้องเผชิญปัจจัยลบหลายอย่าง ทั้งเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงที่ส่งผลกระทบไปถึงกำลังซื้อ ขณะเดียวกันทิศทางดอกเบี้ยก็เป็นขาขึ้นด้วย นอกจากนั้นมาตรการควบคุมสินเชื่อต่อมูลค่าบ้านหรือ LTV ก็จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในไตรมาส 2 เป็นต้นไป ทั้งนี้ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) ก็ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ตลาดอสังหาฯในปี 2562 นี้จะเผชิญกับการชะลอตัวทั้งในส่วนของอุปสงค์และอุปทาน เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและมาตรการคุม LTV ทั้งนี้ REIC คาดว่าในปี 2562 ปริมาณการโอนกรรมสิทธิ์บ้านจะลดลง 11.6% ขณะที่อุปทานของโครงการเปิดใหม่จะลดลง 4.3% เมื่อเทียบกับปี 2561
การที่ที่ดินในทำเลดีๆไม่ตกอยู่ในสภาวะที่ผู้พัฒนาโครงการต่างแข่งกันประมูลซื้ออย่างรุนแรงย่อมเป็นผลดีต่อการนำที่ดินไปต่อยอดในการพัฒนาโครงการอื่นๆนอกเหนือจากคอนโดมิเนียม ทั้งนี้ที่ผ่านมาการแข่งขันกันพัฒนาคอนโดฯในทำเลดีๆหลายแห่งส่งผลให้ราคาที่ดินปรับตัวอย่างรุนแรงจนทำให้ต้นทุนในการพัฒนาโครงการในรูปแบบอื่นๆเช่น โรงแรม อาคารสำนักงาน ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน แนวโน้มที่อุปทานบ้านชะลอตัวนั้นส่งผลดีให้ที่ดินในทำเลศักยภาพสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในราคาที่คุ้มค่าและสมเหตุสมผล ฉะนั้นแล้วจึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่จะเฟ้นหาโครงการที่เหมาะสมกับทำเลที่เปิดกว้างมากขึ้นจากการปรับตัวของตลาดบ้านในปีนี้
Tags:
ARTICLE EXCLUSIVE