Note:
บทความโดย : ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์
เดือนที่แล้วลูกสาวดิฉันได้โจทย์จากทางโรงเรียนมาค่ะ โจทย์มีอยู่ว่าให้นักเรียนกลับไปคิดหาวิธีมาว่า “จะทำการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้านได้อย่างไร” ตรงนี้เราก็เริ่มจากการมาไล่ดูว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้านนั้นมีอะไรบ้าง โดยหลักๆ แล้วก็จะมีค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นรายจ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีพนั่นเองค่ะ
โดยธรรมชาติของค่าใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีพทั่วๆ ไปอย่างค่าเช่าบ้านและค่าไฟนั้นเป็นรายจ่ายที่เลี่ยงไม่ได้และขึ้นไปเรื่อยๆ ตามอัตราเงินเฟ้อ การแก้โจทย์ตรงนี้ดิฉันก็มองไปที่หลักความจริงค่ะว่า แทนที่เราจะเสียไปเรื่อยๆ ไปตลอด สู้เราลงทุนเป็นเจ้าของทรัพยากรตัวนั้นไปเลย จะได้ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการใช้ทรัพยากรนั้นค่ะ ในกรณีของค่าเช่าบ้านเราเลยตอบคำถามตรงนี้ด้วยการเลือกที่จะผ่อนบ้านเพื่อให้ได้บ้านเป็นของเราเอง เมื่อเรามีบ้านเป็นของเราเอง เราก็ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้านอีกเลยค่ะแถมจะได้
ประโยชน์ต่อที่ 2 ในรูปของการมีอิสระอย่างสมบูรณ์ในการใช้ประโยชน์อื่นๆ จากตัวบ้านทั้งการต่อเติม ตกแต่ง เอาไปทำธุรกิจ หรือแม้แต่ขายต่อในอนาคตค่ะ
หลักการของการลดค่าใช้จ่ายด้วยการลงทุนเพื่อเป็นเจ้าของเลย ยังใช้ได้กับการประหยัดค่าไฟค่ะ แทนที่เราจะทำทุกทางเพื่อประหยัดไฟและลดค่าไฟลงมา แต่พอถึงจุดหนึ่งเราก็จะไม่สามารถลดค่าไฟได้เพราะทุกบ้าน ทุกคนต้องมีกิจกรรมพื้นฐานที่ต้องพึ่งพลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ดังนั้นหากเราต้องการเป็นครอบครัวที่ปลอดจากค่าไฟในระยะยาว เราก็ควรคิดที่จะเป็นเจ้าของแหล่งไฟฟ้าด้วยตนเอง เช่นเดียวกับคิดมีบ้านเป็นของตัวเองค่ะ ในเรื่องนี้เราตอบคำถามเรื่องการประหยัดค่าไฟด้วยการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ผ่านการติดตั้งแผงโซลาร์เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองภายในบ้าน ตรงนี้จะทำให้เราเป็นเจ้าของแหล่งไฟฟ้าของเราเอง และช่วยให้เราจ่ายค่าไฟลดลงได้มากหรือไม่ต้องจ่ายเลยในระยะยาวค่ะ
โดยสรุปแล้ว หลักคิดที่ได้จากการนำไปตอบคำถามการบ้านของลูกสาวตรงนี้คือ การให้ความสำคัญกับการลงทุนเป็นเจ้าของ ซึ่งเราจะมีค่าใช้จ่ายในช่วงเริ่มต้นในการจ่ายหรือผ่อนส่งเพื่อให้เราได้กรรมสิทธิ์ในทรัพยากรที่จำเป็นและสามารถเข้าถึงได้ไม่ยากค่ะ แต่ในระยะยาวจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจำเป็นบาง เช่น ค่าเช่าบ้านหรือค่าไฟฟ้าได้ อีกทั้งเรายังสามารถนำเอาทรัพยากรตรงนี้ไปต่อยอดทำประโยชน์หรือส่งต่อไปให้ลูกหลานในอนาคตได้ค่ะ
