“SENA” แย้ม Q1/61 ฟอร์มแจ่ม

“SENA”เผยทำยอดขายไตรมาสแรก 3,000 กว่าล้านบาท อานิสงส์เปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ ชี้ตลาดบ้าน – คอนโดกระแสการตอบรับดีเศรษฐกิจฟื้นเอื้อตลาดอสังหาฯโต ล่าสุด ไตรมาส 2/61 จ่อเปิดคอนโดฯใหม่ มูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท เสิร์ฟกำลังซื้อลูกค้าย่านติวานนท์ เผยออกหุ้นกู้ 1,500 ล้านบาท หนุนธุรกิจเพิ่มก้าวกระโดด

 

นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาสแรกของปี’61 ว่า ตลาดอสังหาฯ มีแนวโน้มการเติบโตดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี’60 ซึ่งเป็นผลพวงมาจากหลายปัจจัย เช่น จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น การลงทุนของภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำหนุนความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้บริโภคระดับกลางและระดับบนให้เพิ่มขึ้น

“สังเกตว่าในช่วงไตรมาสแรก กำลังซื้ออสังหา ฯ ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลาง – บน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง และได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจไม่มากนัก ซึ่งสอดรับกับภาพรวมตลาดในไตรมาส 2/61 คาดการณ์ว่าการแข่งขันจะเข้มข้นกว่าในไตรมาสแรกที่ผ่านมาด้วยจำนวนโครงการใหม่ที่จะทยอยเปิดตัวออกมาเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้”

สำหรับไตรมาสแรกของปี’61 เสนาฯสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 3,000 กว่าล้านบาท ซึ่งเติบโตจากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยมียอดขายจากกลุ่มตลาดบ้าน อยู่ที่ 175.66 ล้านบาท คิดเป็น 6% คอนโดมิเนียม 1,100 กว่าล้านบาท คิดเป็น 37% และโครงการจากการร่วมทุน (Joint Venture = JV) กับทางฮันคิว ฮันชิน พร๊อพเพอร์ตี้ คอร์ปเปอร์เรชั่น (Hankyu Hanshin Properties Corp.) 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท – แบริ่ง และ โครงการ นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ 1,724 ล้านบาท คิดเป็น 57 %

โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี’61 ทางบริษัทได้เปิดโครงการใหม่ 4 โครงการวมมูลค่า 5,000 กว่าล้านบาท ภายใต้แนวคิด “Made From Her” ใส่ใจทุกดีเทลชีวิต จากแนวคิดแบบผู้หญิง ประกอบด้วย โครงการ นิช ไอดี บางแค เฟส 2, โครงการ นิช ไอดี พระราม 2 เฟส 3 ,โครงการ นิช ไอดี เสรีไท เฟส 2 และโครงการนิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ ตามลำดับ

สำหรับในช่วงไตรมาส 2/61 เตรียมแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 1 โครงการ เป็นคอนโดมิเนียม ย่านติวานนท์ จำนวน 528 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ระดับราคาขายเริ่มตั้งแต่ 80,000 บาทต่อตารางเมตร โดยจะเปิด Pre sale ช่วงเดือนมิถุนายนนี้ นอกจากนี้แล้ว ทางบริษัทยังได้ออกหุ้นกู้จำนวน 1,500 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการต่ออายุหุ้นกู้เดิมจำนวน 800 ล้านบาท และนำส่วนที่เหลือมาเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้ จำนวน 18 โครงการ รวมมูลค่า 23,000 ล้านบาท ถือเป็นการ Fix อัตราดอกเบี้ยในอนาคต และช่วยบริหารต้นทุนทางการเงินของบริษัทได้

อย่างไรก็ตาม จากสภาวะตลาดอสังหาฯที่มีการเติบโตต่อเนื่องและภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหนุนกำลังซื้อและเพิ่มความเชื่อมั่นในทุก Segment ทางบริษัทได้ปรับแผนทางการตลาดและพัฒนาโครงการให้สอดคล้องกับทิศทางของตลาดในปัจจุบัน โดยคาดว่าผลดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้.